กฏแห่งกรรม จากชีวิตจริงของหลวงพ่อจรัญ (พระธรรมสิงหบูราจารย์)
กฏแห่งกรรม จากชีวิตจริงของหลวงพ่อจรัญ
(พระธรรมสิงหบูราจารย์)
กฏแห่งกรรม จากชีวิตจริงของหลวงพ่อจรัญ
(พระธรรมสิงหบูราจารย์)
อาตมาเคยเล่าให้โยมฟัง คนแก่จนอายุ ๘๖
ปีแล้วทอดกฐินตั้งหลายโครม
ทอดผ้าป่าไปหลายร้อยโครมแล้วมานั่งรักษาอุโบสถดังที่กล่าวมาแล้วถึง ๓๐ ปีเศษ
ตั้งแต่เป็นรุ่นสาว แก่แล้วก็มานั่งอีก แต่ตายไปเป็นเปรตเสียได้ ตายไปเป็นเปรตเพราะเหตุใด
ทำบุญเก่ไม่น่าตายไปเป็นเปรต แต่ก็ตายเป็นเปรตด้วยอำนาจโลภะ
คุณยายเป็นเศรษฐีมีลูกหลายคนและให้สมบัติแก่ลูกไปหมดแล้วทุกคน
แต่อาศัยอยู่กับลูกสาวคนเล็กซึ่งมีสามีเป็นเศรษฐีมีโรงน้ำแข็ง โรงสี เป็นต้น
ต่อมาลูกเขยเล่นการพนันจนสมบัติหมด ต้องขายร้าน ขายโรง ขายไร่
ขายนาจนสิ้นเนื้อประดาตัว กลัวเขาจะยื่นฟ้องล้มละลาย
ลูกสวยจึงขอความช่วยเหลือจากคุณแม่ คุณแม่ก็ไม่มีทุนแล้ว
เพราะทอดกฐินมากถึงมีก็ไม่พอใช้หนี้
จึงขึ้นไปหาลูกชายคนโตที่เชียงใหม่ขอสมบัติที่มอบให้คืน เพื่อนำมาช่วยลูกสาวคนเล็ก
ลูกชายและลูกสะใภ้ก็ยินดีคืนให้ กลับมาก็มอบให้ลูกสาว ลูกสาวก็มอบให้สามี
แต่สามีกลับนำไปเล่นการพนันต่อเพราะหมอดูที่วัดหนึ่งบอกว่าเล่นแล้วจะรวยมหาศาล
เดือนหน้ารวยแน่ ๆ เลยหมดไม่มีเหลือ คุณยายก็เสียใจจนเป็นโรคหัวใจวายตาย
ตายแล้วไม่ไปสวรรค์กลับไปทุคติ เป็นเปรต
อาตมาไปธุระแถวบางมะยม อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี
ใกล้บ้านกำนันไข่ เด็กสาวอายุ ๑๖ ปี ร้องหวีดหวาดขึ้นมาว่าผีเข้า
เด็กคนนี้ไม่รู้ประวัติคุณยายและไม่รู้จักอาตมาด้วย อาตมาไปดู
ถามไปถามมาก็รู้ว่าคุณยายนี่เองมาบอกว่าอดหมากเหลือเกินและมาบอกความลับที่ตายไปเพราะเสียใจลูกเล่นการพนันหมด
เคยถวายหมากพระเวลาทอดกฐิน ทอดผ้าป่าทุกชนิด
แต่คราวนี้ไม่ได้กินหมากไปเป็นเปรตเที่ยวขอเขากินตามบ้าน
บุญที่ทำนั้นจะได้ต่อภายหลัง ต้องใช้หนี้กรรมหนัก คืออำนาจโลภะนี้ก่อน
นี่อาตมายืนยันเพราะไปเจอเด็กที่ผียายคนนี้ไปเข้า
ถามพ่อแม่เด็กว่ารู้จักตระกูลนี้ไหม ก็ไม่รู้จัก
แต่ทำไมบอกได้หมดว่าลูกชายคนโตชื่ออะไร ลูกสาวคนเล็กชื่ออะไร
เด็กมันจะรู้ได้อย่างไร ขอฝากญาติโยมไปคิดโดยทั่วหน้ากัน
อย่าลืมนะบุญกรรมจากการกระทำของคุณยายรักษาอุโบสถนี่ดิ่งเลย
ทั้งวันไม่คุยกับใคร มานั่งเฝ้าศาลาพระเทศน์ก็ติดกัณฑ์เทศน์ไม่พัก แต่ไม่รู้ว่าบุญคือความสุขจากการชำระใจ
คุณยายสวดมนต์ก็เก่ง แต่ไม่ปฏิบัติธรรม แล้วบุญที่ทำจะได้หรือ ตอบว่า
ได้แต่บาปมาก่อน เพราะอำนาจโลภะจึงไปเป็นเปรตก่อน
พอหมดเวรกรรมจากเปรตจึงจะไปสวรรค์ต่อภายหลัง
ตอนที่คุณยายป่วยด้วยความเสียใจ อดข้าว อดปลา มาเป็นเดือนเศษ
อาตมาไปเยี่ยม ๒ ครั้ง ชวนมานั่งกรรมฐาน คุณยายบอกว่านั่งไม่ได้
ไม่สบายใจเสียแล้วแก่แล้ว เมื่อก่อนนี้ตอนที่อินทรีย์ยังดีก็ไม่สนใจกรรมฐานเลย
สนใจแต่ว่าใครจะมาบอกบุญไม่เคยขัดเลย ต้องทำทุกวัด จึงหาความสุขไม่ได้
ตายไปเป็นเปรต เดี๋ยวนี้ยังไม่ไปผุดไปเกิด แต่ประการใด
ยังทรมานอยู่ด้วยอำนาจของโลภะ เรื่องนี้อาตมาประสบมาด้วยตนเอง
ไม่มีความคิดเห็น: